เรื่องมันมีอยู่ว่า...........
ภูเขาที่หมู่บ้านของผมนั้นเต็มไปด้วยต้นไผ่ ทุกๆปีพอถึงฤดูฝนชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะเข้าป่า ขึ้นภูเขาไปหาเก็บหนอไม้กัน มีทั้งหาไปกิน หาไปฝากญาติพี่น้องและหาไปขาย
และพอถึงวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปีหมู่บ้านผมจะประกาศปิดป่าห้ามชาวบ้าน ขึ้นภูเขาไปเก็บหนอไม้อีกประมาณว่า ปล่อยให้หาอยู่หากินกันพอประมาณแล้ว ถึงเวลาปิดป่าเพื่อให้ต้นไผ่ได้เติบโตกันบ้าง ปีต่อๆไป
จะได้มีหนอไม้ไว้ให้เก็บกินกันอีก
อรัมภบึดดดดนานเกิ๊นนนนเข้าเรื่องดีกว่าเนาะครับเนาะ..........
ย้อนไปปี พ.ศ 2556 วันนั้นระหว่างที่ผมเข้าเวรปิดป่าผมแขวนเปลนอนเล่นฟังคนแก่เขาพูดคุยกัน คนแก่สามสี่คนคนพูดคุยกันเรื่องทำอย่างไรจะเก็บหนอไม้ไว้กินได้นานที่สุด
คนแรกบอกว่า ทำเป็นหนอไม้ต้มใส่ถูงก็เก็บได้เป็นปีแล้ว คนที่สองกลับบอกว่า ทำเป็นเส้นแล้วตากแห้งดีกว่ามันไม่ค่อยเน่าเหมือนวิธีแรกที่บางถุงบุดบ้างเน่าบ้างขึ้นราบ้าง แล้วเสียงจากคนแก่คนที่สามที่อาวุโสที่สุด
ของทีมเข้าเวรวันนั้นก็พูดขึ้นมาว่า จะไปตากแห้งรึใส่ถุงให้เสียเวลาทำไม ไปขุดเหง้ามันมาปลูกนั้นรับรองเก็บไว้กินได้ทั้งชาติ ยิ่งถ้าเป็นไผ่เลี้ยงหนิถ้ารดน้ำมันมันออกหนอให้กินตลอดปีเลย..........
ความรู้สึกผมในตอนนั้น
ป้าดดดดดดดดดธิโธ
นี้มันปราชญ์ชัดๆเลยนี่หว่า
หลังจากวันนั้นผมก็เสาะหาไผ่พันธุ์ต่างๆมาปลูก ไว้กินไว้ใช้ที่บ้าน ทั้งไผ่เลี้ยง กิมซุง บงหวาน ฯลฯจากวันแรกที่ปลูกผ่านเวลามาสองปีกว่าๆ ก่อไผ่ก็เริ่มแทงหนอให้เก็บกินได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ
แต่หน้าเสียดายที่ปีที่แล้วผมเห็นคนแก่คนนั้น คนที่บอกให้ขุดเหง้าไผ่มาปลูกอะ ปีที่แล้วแก่ยังขึ้นไปหาหนอไม้บนภูเขาอยู่เลย และที่สำคัญคือที่บ้านแก